อาถรรพ์รางวัลที่ 1 ถูกหวย 42 ล้าน หมดภายใน 2 ปี แจงละเอียดยิบ พร้อมกูรูแนะวิธีการวางแผนการใช้เงิน ศึกษาไว้เผื่อถูกรางวัลใหญ่

เป็นเรื่องราวที่เป็นกระแสในโลกโซเชียลและถูกแชร์เป็นจำนวนมาก กับคลิปเปิดใจคนดวงดีถูกรางวัลที่ 1 รวยไม่ทันตั้งตัว 42 ล้าน แต่เงินหมดภายใน 2 ปี แถมกลายเป็นหนี้ ไม่มีแม้เงินจ่ายค่าเทอมลูกต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ปัจจุบันออกมาประกาศขายบ้านสมบัติชิ้นสุดท้าย

สำหรับคนที่ไม่แน่ใจว่าหวยที่มี ถูกรางวัลหรือไม่ สามารถตรวจผลหวยได้จากที่นี่ เลย

สารบาญ

โชคหล่นจากฟ้า
แจงการใช้จ่ายเงิน
รู้ตัวว่าเงินหมด
กลับมาเป็นหนี้นอกระบบ
กูรูแนะวิธีการวางแผนการใช้เงิน
ฝากข้อคิดทิ้งท้าย

มาใหม่กดตรงนี้

โชคหล่นจากฟ้า

เจ้าของเรื่องราวนี้คือคุณ เอก ปิยะวัฒน์ ขาวปลอด ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการตีสิบเดย์ ถึงความโชคดีเมื่อสิบปีที่แล้วคือปี 2554 ก่อนหน้าที่คุณเอกจะถูกรางวัล เป็นคนฐานะปานกลาง มีธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับการผลิตอุปกรณ์เครื่องสักส่งร้านสักและส่งออกนอกด้วย มีหนี้นอกระบบจากการซื้อร้านเพิ่มเพราะไม่มีเครดิตกับธนาคาร กู้มา 6 แสน แต่ก็สู้ดอกเบี้ยนอกระบบไม่ไหวเพราะเสียดอกเบี้ยเป็นล้าน จึงตัดสินใจนำเงินจำนวนนึงมาซื้อลอตเตอรี่หวังเสี่ยงโชค เพราะเคยมีหมอดูชื่อดังสองคนเคยทักว่าชีวิตมีดวงจะผกผันจากโชคก้อนใหญ่ กอปรกับก่อนหน้าก็เคยถูกรางวัลที่ 3 ที่ 4 มาแล้ว โดยหมอดูยังแนะนำอีกว่าให้ซื้อเลขที่เกี่ยวกับตนเอง จึงซื้อเลขเบอร์โทรศัพท์ แต่งวดนั้นเลขเบอร์ตนเองไม่มี มีแต่เบอร์ของแฟน จึงซื้อมาเป็นชุด 5 ใบ

พอถึงวันหวยออก ไปรอดูผลที่กองสลากก็ต้องตกใจเพราะตรวจเลขแล้วถูกรางวัลที่ 1 เป็นจำนวนเงิน 20 ล้าน พ่วงด้วยรางวัลแจ๊กพอตอีก 20 ล้าน และรางวัลลอตเตอรี่การกุศลอีก 2 ล้าน รวมเป็นเงิน 42 ล้านบาท

เมื่อได้เงินมา คุณเอกได้แจงการใช้จ่ายเงินให้ฟังว่า

– จ่ายหนี้บ้าน 2 ล้าน

– แจกทองคำ 1 บาทให้ลูกน้อง 20 คน

– แจกเงินญาติพี่น้องคนละล้านกว่าบาท

– ให้พ่อแม่คนละ 1 ล้าน

– แจกคนขายลอตเตอรี่ 3 แสน แต่ให้ผิดคนเลยต้องให้คนขายตัวจริงอีก 2 แสนบาท

– ซื้อประกันกับธนาคาร 5 แสน

– ซื้อบ้าน 18 ล้าน

– จ่ายหนี้นอกระบบ

– เพื่อนยืมเงิน

รู้ตัวว่าเงินหมด

เมื่อตอนผ่านไป 2 ปีแล้วเหลือเงินในบัญชีแค่ 4 ล้านบาท จาก 42 ล้าน และไม่นานเงินก็ร่อยหรอไปจากการทำธุรกิจ แม่เข้าโรงพยาบาลต้องใช้เงินค่ารักษาไปอีกเป็นหลักล้าน และที่เจ้าตัวบอกพลาดอย่างมากคือ ไม่ได้นำเงินเข้าบัญชีลูกเลยเพราะประมาทคิดว่ายังเด็กอยู่ จนสุดท้ายไม่มีเงินค่าเทอมให้ลูก ต้องผ่อนค่าเทอมให้โรงเรียนลูก แต่ลูกที่เรียนระดับมหาวิทยาลัยต้องออกกลางคันเพราะไม่สามารถผ่อนผันได้

กลับมาเป็นหนี้นอกระบบ

หาทางออกไม่ได้จนท้อคิดฆ่าตัวตาย ตอนนี้ต้องกลับมาเป็นหนี้นอกระบบอีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันนี้ยังต้องจ่ายรายวัน สุดท้ายประกาศขายบ้านที่เหลือเป็นสมบัติชิ้นสุดท้าย เพื่อนำเงินมาดูแลครอบครัว

กูรูแนะวิธีการวางแผนการใช้เงิน

ในตอนท้ายรายการ ได้เชิญนักวางแผนการเงินอิสระ คุณศิวัฒน์ สิงหสุตกร มาแนะนำวิธีการวางแผนการใช้เงิน โดยกูรูแนะนำแบ่งเงินทั้งหมดออกเป็นกองตามสัดส่วน ได้แก่

ส่วนที่ 1 เงินสำรองฉุกเฉิน จำนวน 1 ล้านบาท

ส่วนที่ 2 ชำระหนี้สิน จำนวน 2 ล้านบาท

ส่วนที่ 3 คุ้มครองความเสี่ยง จำนวน 3 ล้านบาท

ส่วนที่ 4 บริหารจัดการ/ลงทุน/ธุรกิจ จำนวน 34 ล้านบาท

ส่วนที่ 5 ตามอัธยาศัย จำนวน 2 ล้านบาท

โดยยังแนะนำอีกว่า ไม่ว่าจะมีเงินเข้ามาจากทางไหนหรือจำนวนมากเท่าใด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการบริหารการเงิน ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยรักษาเงินที่ได้มาได้สามารถพอกพูนมากขึ้น

ฝากข้อคิดทิ้งท้าย

“หากย้อนเวลากลับไปได้ จะจัดการบริหารการเงินใหม่ทั้งระบบ และจะเอาเงินเข้าบัญชีให้ลูก”
คุณเอกกล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างเศร้าใจ

ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าเก็บเอาไปคิดและใช้ได้กับทุกคน ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเงินที่ได้มาจากการถูกลอตเตอรี่หรือมีโชคเท่านั้น แต่การวางแผนการเงินยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในครัวเรือนของบุคคลทั่วไปได้ ขอแค่มีสติ ไม่ประมาท และมีการวางแผนอย่างรอบคอบ

อย่าลืม เป็นเพื่อนกับเราบนเฟสบุ๊กกรุ๊ปสวัสดี เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุด กิจกรรมถูกใจวัยเก๋า ด้วยนะคะ